เที่ยวอำเภอไทรโยค
เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เป็นเมืองโบราณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 60 ไร่ จำลองวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ในสมัยอดีต ในรัชกาลที่ 5 หลังการประกาศเลิกทาส หากใครที่ได้เข้ามาก็จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เดินเล่นผ่าน สะพานหัน อันเป็นที่ล่องเรือค้าขายกันของผู้คนในสมัยนั้น อีกทั้งอาคาร บ้านเรือนไทย อาหารไทยแบบดั้งเดิม เงินที่ใช้ในการซื้อขาย ภาษาที่ใช้ ขอรับ/เจ้าคะ การประกอบอาชีพของคนสมัย การหุงหาอาหาร และเราสามารถแต่งชุดไทย ให้เข้ากับบรรยากาศได้อีกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ หรือ ที่นิยมเรียกว่า "ปราสาทเมืองสิงห์" เป็นโบราณสถานที่มีศิลปะการก่อสร้างในยุคลพบุรีตอนปลาย ประมาณ พุทธศตวรรษที่ 16-18 ผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีเนื้อที่กว่า 800 ไร่ กำแพง เมืองก่อด้วยศิลาแลงกว้าง 880 เมตร โดยได้รับอิทธิพลทาง ศาสนาและวัฒนธรรมจากกัมพูชา ตัวปราสาทล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง คูน้ำ และ แนวคันดิน รูปแบบสถาปัตยกรรม และ ประติมากรรมสร้าง ตามลักษณะขอมแบบบายนในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า ตั้งอยู่ตำบลบ้านเก่า ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นสถานที่ขุดพบหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับมนุษย์สมัยยุคหินยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งแรกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2506 หลักฐานที่ค้นพบ ได้แก่ โครงกระดูกมนุษย์ ขวานหิน เครื่องประดับและเครื่องปั้นดินเผา
ถ้ำกระแซ (ทางรถไฟสายมรณะ) อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 55 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ และเคยเป็นที่พักของ เชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเสน้ทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ซึ่งเป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวถ้ำติดกับทางรถไฟสาย มรณะ และแม่น้ำแควน้อย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทิวทัศน์งดงามมาก อีกทั้งเป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบภูเขา และด้าน ล่างเป็นแม่น้ำ จึงเรียกบริเวณนี้ว่า โค้งมรณะ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวของเส้นทางรถไฟสายนี้ โดยปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานี รถไฟน้ำตก อำเภอไทรโยค การเดินทางได้ทั้ง โดยรถยนต์ และ รถไฟ
น้ำตกไทรโยคน้อย อยู่ริมถนนสาย 323 (กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ) บริเวณ กม.ที่ 46 ห่างจากเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามร่มรื่น จะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว แต่ในฤดูแล้งน้ำจะน้อย-น้อยมาก และยังจัดแสดงหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไว้เพื่อรำลึกถึงการ สร้างทางรถไฟสายมรณะที่สร้างผ่านบริเวณด้านหน้าน้ำตกนี้เข้าสู่ประเทศพม่า
ช่องเขาขาด พิพิธภัฑสถานแห่งความทรงจำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา (กรป.กลาง) เป็นสถานที่จัดแสดงมินิเธียเตอร์เรื่องราวการสร้างรถไฟสาย มรณะ และรวบรวมภาพถ่าย เครื่องใช้ระหว่างการสร้างทางรถไฟในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลออสเตรเลียเป็นผู้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด หรือช่องไฟนรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่เชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือปราศจากเครื่องมือทันสมัย ให้เป็นช่องสำหรับสร้างทางรถไฟ ปัจจุบันมีร่องรอยของทางรถไฟปรากฎอยู่
น้ำตกไทรโยคใหญ่ เดิมเรียกว่า น้ำตกเขาโจน เนื่องจาก เป็นน้ำตกที่ไฟลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อยราวกับกระโจนลงมา น้ำตกนี้จะมีน้ำในฤดูฝน ฤดูแล้งน้ำจะน้อย อยู่ในเขตอุทยาน แห่งชาติไทรโยค ซึ่งมีเนื้อที่ 312,500 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เคยเสด็จประพาสและได้พรรณนาถึงความสวยงามของน้ำตกนี้ ภายในอุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ในบริเวณใกล้เคียงมีถ้ำ 3 ถ้ำ และมีจุดชมวิวบนสะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย ที่สามารถข้ามไปเล่นน้ำยังฝั่งตรงข้ามน้ำตกไทรโยคใหญ่ได้
ถ้ำดาวดึงส์ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยไปบนเขา ประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงามเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น โคมระย้า พระปรางค์ และเจดีย์ ถายในถ้ำมีอากาศโปร่งแต่มืดสนิท ต้องมีไฟฉายไปด้วยและควรติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก่อนเข้าชมถ้ำ